การเจรจาสันติภาพอิสราเอล-ฮามาสในอียิปต์
การเจรจาสันติภาพอิสราเอล-ฮามาสในอียิปต์ | ถ่ายโดย: ABC News (Fair Use)
ข้อตกลงหยุดยิงกาซาบังเกิดผล อิสราเอล-ฮามาสปล่อยตัวตัวประกันและนักโทษแลกเปลี่ยนกันครบ
เนื้อหาข่าว
หลังจากความพยายามเจรจาที่ยาวนานหลายเดือน ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสได้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2025 เวลา 12:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (05:00 น. ตามเวลาตะวันออก) หลังจากคณะรัฐมนตรีอิสราเอลลงมติเห็นชอบข้อตกลงเมื่อคืนวันที่ 9 ตุลาคม
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกาประกาศว่า อิสราเอลและฮามาสได้ตกลงกันในกรอบสันติภาพเฟสแรก ซึ่งจะนำไปสู่การสิ้นสุดสงครามที่ยืดเยื้อมา 2 ปี นับตั้งแต่การโจมตีของฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023
การแลกเปลี่ยนตัวประกันและนักโทษ
วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม 2025 เป็นวันสำคัญของข้อตกลง โดยมีการแลกเปลี่ยนตัวประกันและนักโทษครั้งใหญ่:
ตัวประกันอิสราเอลที่ถูกปล่อยตัว
ฮามาสปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลที่ยังมีชีวิตอยู่ทั้งหมด 20 คน ซึ่งถูกจับตัวไปตั้งแต่การโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 กลับสู่อิสราเอล อิสราเอลยืนยันว่าตัวประกันทั้งหมดที่ยังมีชีวิตได้รับการปล่อยตัวแล้วภายใต้ข้อตกลงเฟสแรก
นักโทษปาเลสไตน์ที่ถูกปล่อยตัว
อิสราเอลปล่อยนักโทษปาเลสไตน์จากเรือนจำอิสราเอลรวม มากกว่า 1,900 คน ตามรายชื่อเบื้องต้นที่ตกลงกันไว้คือ 250 คน แต่ในที่สุดมีการปล่อยตัวมากกว่าข้อตกลงเดิม
นักโทษที่ถูกปล่อยตัวทั้งหมดเป็นเพศชาย อายุระหว่าง 21 ถึง 64 ปี ตามรายชื่อที่อิสราเอลเผยแพร่
เงื่อนไขข้อตกลงหยุดยิง
ข้อตกลงหยุดยิงในเฟสแรกมีเงื่อนไขสำคัญดังนี้:
- การถอนกำลังทหาร: กองทัพอิสราเอลถอนกำลังออกจากพื้นที่เฉพาะในกาซา
- การแลกเปลี่ยน: ตัวประกันทั้งหมดแลกกับนักโทษปาเลสไตน์
- ความช่วยเหลือด้านมานุษยธรรม: เปิดช่องทางให้ความช่วยเหลือด้านมานุษยธรรมไหลเข้าสู่กาซา
- การเจรจาต่อเนื่อง: เปิดเจรจาเฟสสองสำหรับสันติภาพระยะยาว
ฮามาสแถลงว่า ได้รับ “การรับประกันจากสหรัฐอเมริกาว่าสงครามได้สิ้นสุดลงอย่างไม่มีกำหนด” ซึ่งเป็นการให้ความมั่นใจว่าข้อตกลงหยุดยิงจะไม่ใช่เพียงชั่วคราว
ปฏิกิริยาจากนานาชาติ
ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศว่าเขาประกาศสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสสิ้นสุดลงแล้ว และมองว่าข้อตกลงหยุดยิงเป็นโอกาสสำหรับสันติภาพที่ยั่งยืนในตะวันออกกลาง ประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันว่าเขาวางแผนจะเดินทางไปยังอียิปต์และอิสราเอลเพื่อติดตามแผนสันติภาพกาซาในระยะแรก
ประเทศต่างๆ ทั่วโลกต่างแสดงความยินดีกับข้อตกลง โดยเฉพาะประเทศในตะวันออกกลาง อียิปต์และกาตาร์ ซึ่งเป็นผู้ไกล่เกลี่ยหลัก ต่างแสดงความพึงพอใจว่าความพยายามของตนได้ผลลัพธ์
บริบทของสงคราม
สงครามกาซาเริ่มต้นจากการโจมตีของฮามาสต่อดินแดนอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ซึ่งส่งผลให้มีชาวอิสราเอลเสียชีวิตและถูกจับเป็นตัวประกัน การตอบโต้ของอิสราเอลต่อเนื่องมา 2 ปีเต็ม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมากทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะพลเรือนในกาซา
ตามข้อมูลจากองค์กรสาธารณสุขของกาซา มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 40,000 คนในช่วง 2 ปีของสงคราม ส่วนอิสราเอลมีทหารและพลเรือนเสียชีวิตรวมกว่า 1,200 คนจากการโจมตีเบื้องต้นและการต่อสู้ที่ต่อเนื่อง
บทวิเคราะห์เพิ่มเติม
ข้อตกลงหยุดยิงครั้งนี้ถือเป็นการพัฒนาที่สำคัญในความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์ที่ยืดเยื้อมานานหลายทศวรรษ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนระมัดระวังในการคาดการณ์สันติภาพระยะยาว เนื่องจากข้อตกลงหยุดยิงในอดีตมักพังทลายลงภายในเวลาไม่นาน
ปัจจัยความสำเร็จของข้อตกลงครั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายประการ รวมถึง:
- การยึดถือข้อตกลง: ทั้งสองฝ่ายต้องยึดมั่นในเงื่อนไขที่ตกลงกัน
- การเจรจาเฟสสอง: ความสามารถในการเจรจาข้อตกลงระยะยาวสำหรับอนาคตของกาซา
- การสนับสนุนจากนานาชาติ: ความช่วยเหลือในการฟื้นฟูกาซาและการบังคับใช้ข้อตกลง
- ความต้องการของประชาชน: ทั้งชาวอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์ต่างต้องการสันติภาพหลังจากสงครามที่ยาวนาน
การปล่อยตัวประกันทั้งหมดเป็นข่าวดีสำหรับครอบครัวชาวอิสราเอล แต่ความท้าทายที่แท้จริงคือการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน ซึ่งต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่ายและการแก้ไขประเด็นรากเหง้าของความขัดแย้ง
กาซาได้รับความเสียหายอย่างหนักจากสงคราม โครงสร้างพื้นฐานพังทลาย ระบบสาธารณสุขล่มสลาย และประชาชนหลายแสนคนไร้ที่อยู่อาศัย การฟื้นฟูจะต้องใช้เวลาและเงินทุนมหาศาล ซึ่งชุมชนนานาชาติจะต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง