พระราชวังรัฐบาลเปรูในกรุงลิมา
พระราชวังรัฐบาลเปรูในกรุงลิมา | ถ่ายโดย: Unsplash / Willian Justen de Vasconcellos (Unsplash License)
สภาเปรูถอดถอนประธานาธิบดีดินา โบลูอาร์เตอย่างเป็นเอกฉันท์ จากวิกฤตอาชญากรรมพุ่งสูง
เนื้อหาข่าว
ในคืนวันที่ 10 ตุลาคม 2025 สภาคองเกรสเปรูได้ลงมติถอดถอนประธานาธิบดีดินา โบลูอาร์เต (Dina Boluarte) ออกจากตำแหน่งอย่างเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียง 122 ต่อ 0 เมื่อเวลาประมาณ 00:07 น. โดยไม่มีผู้งดออกเสียงแม้แต่คนเดียว นับเป็นการถอดถอนที่รวดเร็วและได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรเก่าของนางโบลูอาร์เตเองที่หันมาต่อต้านเธอ
การถอดถอนครั้งนี้มีสาเหตุหลักมาจาก “ความล้มเหลวในการจัดการกับวิกฤตอาชญากรรมและการขู่กรรโชกที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก” ซึ่งสภาอ้างว่านางโบลูอาร์เตมี “ความไร้ความสามารถทางศีลธรรมอย่างถาวร” (permanent moral incapacity) ในการรับมือกับการโจมตีของกลุ่มอาชญากรรมระหว่างประเทศที่แพร่กระจายเข้ามาในเปรู
สถิติอาชญากรรมที่น่าตกใจ
ข้อมูลจากหน่วยงานของรัฐแสดงว่า ระหว่างปี 2019 ถึง 2024 คำร้องเรียนเกี่ยวกับการขู่กรรโชกในเปรู เพิ่มขึ้น 6 เท่า และ อัตราการฆาตกรรมเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ขณะที่การชุมนุมประท้วงในลิมา เมืองหลวง มักเกิดขึ้นบ่อยครั้งโดยประชาชนออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการต่อกลุ่มอาชญากรจากต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มจากเวเนซุเอลาและโคลอมเบีย
นางโบลูอาร์เตถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากประชาชนว่าไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ ทำให้ความนิยมของเธอตกต่ำลงสู่ระดับประวัติศาสตร์ โดยในเดือนมีนาคม 2025 ความนิยมของเธออยู่ที่เพียง 2% ซึ่งเป็นหนึ่งในอัตราการสนับสนุนที่ต่ำที่สุดของผู้นำประเทศในโลก
โฮเซ่ เจรี ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
หลังจากการถอดถอน โฮเซ่ เจรี (José Jerí) อดีตประธานสภาคองเกรสวัย 38 ปี ได้เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 70 ของเปรูในเวลาประมาณ 01:00 น. ของวันศุกร์ (10 ตุลาคม) ท่ามกลางห้องประชุมสภาที่มีผู้เข้าร่วมแน่นขนัด
นายเจรีกล่าวสุนทรพจน์แรกว่า “ผมสัญญาว่าจะประกาศสงครามกับอาชญากรรมอย่างเต็มรูปแบบ และจะทำให้เปรูกลับมามีความปลอดภัยอีกครั้ง” เขาจะดำรงตำแหน่งจนถึงเดือนกรกฎาคม 2026 ซึ่งเป็นเวลาที่เหลืออยู่ในวาระของนางโบลูอาร์เต โดยการเลือกตั้งใหม่กำหนดไว้วันที่ 12 เมษายน 2026
อย่างไรก็ตาม ตัวนายเจรีเองก็ไม่ได้ปราศจากข้อถกเถียง เนื่องจากเคยมีรายงานว่าเขาเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีคอร์รัปชันหลายคดี ทำให้ผู้วิเคราะห์บางคนตั้งคำถามว่าเขาจะสามารถนำพาประเทศออกจากวิกฤตได้จริงหรือไม่
ประวัติการดำรงตำแหน่งของโบลูอาร์เต
ดินา โบลูอาร์เตเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเปรู ขึ้นดำรงตำแหน่งในปี 2022 หลังจากประธานาธิบดีเปโดร กัสตีโย (Pedro Castillo) ถูกถอดถอนด้วยข้อหาพยายามทำรัฐประหาร ในช่วงแรกของการดำรงตำแหน่ง นางโบลูอาร์เตต้องเผชิญกับการประท้วงอย่างรุนแรงซึ่งนำไปสู่การใช้กำลังปราบปรามที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 50 คนในปี 2022-2023
นางโบลูอาร์เตถูกสอบสวนในคดีคอร์รัปชันหลายคดี รวมถึงข้อกล่าวหาการรับสินบนและการใช้นาฬิกา Rolex ราคาแพงที่มาจากแหล่งที่ต้องสงสัย ซึ่งสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของเธออย่างมาก
บทวิเคราะห์เพิ่มเติม
การถอดถอนประธานาธิบดีโบลูอาร์เตสะท้อนถึงความไม่มั่นคงทางการเมืองของเปรูที่ยืดเยื้อมายาวนาน ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เปรูมีประธานาธิบดีถึง 6 คน ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความผันผวนทางการเมืองสูงสุดในอเมริกาใต้
นักวิเคราะห์มองว่า วิกฤตอาชญากรรมในเปรูมีความซับซ้อนเนื่องจากเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจใต้ดินขนาดใหญ่ การค้ายาเสพติด และการอพยพจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเวเนซุเอลาที่มีผู้อพยพเข้ามามากกว่า 1.5 ล้านคนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
ความท้าทายที่รออยู่สำหรับนายเจรีคือการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชนต่อสถาบันรัฐ พร้อมกับการต่อสู้กับอาชญากรรมที่มีเครือข่ายแพร่กระจายไปทั่วประเทศ หากล้มเหลว เปรูอาจเผชิญกับการถอดถอนประธานาธิบดีอีกครั้งในอนาคตอันใกล้
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง